5/5/58

[OS] โลก [ผิงเสีย]




[OS] โลก [ผิงเสีย]



By Fenrir


[สปอยล์เล่ม 10]














บนโลกใบนี้



ที่ไร้ความเชื่อมโยงใดๆ



กาลเวลาอาจไหลผ่านไปนับพันๆปี



เหมือนนทีที่ไม่มีวันย้อนทิศกลับ...



เหมือนชีวิตที่ลาแล้วอาจลับ ไม่หวนมา...









เบื้องหลังบานประตูสำริดโบราณที่ตั้งตระหง่านใต้ภูผา ซ่อนเร้นไว้ซึ่งชายหนุ่มผู้หนึ่ง


เขานั่งเอนกายพิงบานทวารยักษ์ ดวงตาสีดำแลดูเหม่อลอย นิ่งงันเสียจนหากจะมีคนมาพบเข้าคงอุปทานไปได้ง่ายดายว่าอีกฝ่ายสิ้นใจไปแล้ว



เขาเป็นใคร




นัยน์ตา ของเขามิได้จับจ้องสิ่งใด หากใจกลับไม่ค่อยจะอยู่สุขนัก นึกย้อนไปแล้วก็มุ่นคิ้ว งุนงงว่าทำไมเมื่อลืมตาตื่น จึงพบว่าตัวเองนั่งอยู่ท่ามกลางความเงียบงันอันว่างเปล่า



'แล้วนี่คือ.....อะไร?'



แรก ลืมตายังพบว่าอ้อมแขนตนตระคองกอดห่อผ้ายาวนั่นไว้ไม่ห่าง สีขาวของผ้าผืนนั้นขมุกขมัวด้วยฝุ่นและเศษหินดินทรายจนย้อมกลายเป็นสีเทา มอมๆ


ชั่วอึดใจหนึ่งเขาก้มลงมองสิ่งที่อยู่ในวงแขนของเขาในท่า เอนบนตัก มือข้างขวาที่มีนิ้วเรียวยาวผิดธรรมชาติดึงเลิกผ้าบางส่วนขึ้น สีขาวจึงปรากฏแก่สายตา




'...สีขาว...?'




ที่ไม่ใช่สีของหิมะ





'สี...ของ...'













สองเท้าที่ย่ำหิมะมุ่งหน้าสู่ที่หมายด้วยความมุ่งมั่นในหน้าที่พลันชะงักเมื่อเสียงร้องลั่นดังขึ้น



ก่อนทั้งร่างจะเปลี่ยนทิศ วิ่งย้อนกลับไปหาคนที่ตนคิดตีจาก ตัดสายสัมพันธ์ที่รั้งและเชื่อมต่อตัวเขากับโลกใบนี้ไว้



โลกทั้งใบ



โลกของเขา



โลกที่ชื่อว่า 'อู๋เสีย'



อู๋เสีย



อู๋เสีย



อู๋เสีย



...



...





...อู๋เสีย?











โดย ไม่รู้ตัว ร่างกายพลันตอบสนองต่อสิ่งที่ตาเห็นอัตโนมัติด้วยการกระชับอ้อมแขนรั้งสิ่ง นั้นเข้าหาตัว โน้มใบหน้าเกยคางลงบนตำแหน่งที่ทั้งอบอุ่น ทว่าชวนให้ใจร้องหวนไห้อย่างประหลาด



'ทำไมกัน?'



นิ้วชี้ที่ยาวเด่นเอื้อมไปสัมผัส....อ้อยอิง...เชื่องช้า...บนผิวของกระโหลกศีรษะที่บ่งชี้ชัดว่าเป็นของมนุษย์










แขน ที่หักไม่ส่งผลอะไรมาถึงสีหน้าของชายหน้านิ่งที่ใครคนหนึ่งเคยปรามาสไว้ ว่า'น่าเบื่อ'แม้แต่น้อย หากมือทั้งสองข้างกลับสั่นระริกราวต้องของมีพิษยามดึงร่างๆหนึ่งขึ้นมาจาก กองหิมะที่ทับถม


"อู๋เสีย"



ปลายเสียงแผ่วเบาลง นิ้วที่คลำชีพจรค้างเหมือนเจ้าของปลดเปลื้องไปแล้วซึ่งวิญญาณในร่างกาย


'โลกทั้งใบ'พลันจางหายไปกับอากาศธาตุและความเวิ้งว่างของฉางไป๋ซาน












".........เสีย..."



ชายหนุ่มผู้เดียวดายได้แต่คิดว่าตั้งแต่ตื่นมาก็เจอแต่เรื่องที่เขาไม่เข้าใจ


ถ้อยคำอันใดกันที่เหมือนติดเพียงปลายลิ้น หากนึกออกมาไม่ได้


และเขาก็จนปัญญาเกินกว่าจะหาคำตอบ


ว่าเหตุใดเมื่อโอบกอดผ้าห่อโครงกระดูกนี่


อกซ้ายของเขาจึงรู้สึกหนักหน่วง



และกลวงเปล่าเหลือเกิน...









-------------------------------------------------------------------



Talk


ไม่ได้เขียนฟิคมานานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในรอบหลายปีเลยค่ะ แล้วก็เป็นเรื่องแรกของเต้ามู่ด้วย <3

เรา ชอบนั่งคิดบ่อยๆนะคะว่ามีอะไรอยู่หลังประตูสำริด และถ้าตอนที่นายน้อยตามนายเมินไปแล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มันจะส่งผลอะไรบ้าง เลยเกิดเป็นฟิคสั้นๆนี้ขึ้นมาเพื่อสนองความเพ้อนั้นค่ะ คือ...ในขณะที่คนอื่นชอบเขียนฉากเข้าหอกันก่อนนายเมินหายไปหลังประตู สำริด(เขียนมาเถอะ เราชอบอ่าน 55555+) ในหัวเรามันชอบนึกแต่ว่าถ้าต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหายไปจริงๆแบบไม่คาดฝัน อย่างในฟิคนี้ล่ะก็...............เหอๆๆๆ //โดนด้วงรุมกัดตาย

สิ่ง ที่เราคิดในหัวก็คือ นายน้อยตามนายเมินมาเหมือนในเล่ม10 แต่นายน้อยตอนขากลับที่ไหลลงเนินไปจนเสี่ยวเกอต้องกลับมาช่วยเนี่ย เสี่ยวเกอกลับมาช่วยช้าไป กลายเป็นว่านายน้อย.....ไปแล้ว สุดท้ายเลยได้มาอยู่ด้วยกันหลังประตูสำริด แต่การมาอยู่ด้วยกันดันอยู่แบบนี้ซะนี่ แถมถ้าเกิดว่าเวลาข้างนอกผ่านไปนานมากๆ และเสี่ยวเกอจะความจำเสื่อมเมื่อเวลาผ่านไปช่วงหนึ่งอีก..........ความ รู้สึกของคนที่ลืมตามาท่ามกลางความสับสนมันจะเป็นยังไง?

ยอมรับว่า เราเป็นคนเขียนฟิคสายปวดตับ งานทรมานคนอ่านคืองานของเรา มีคติว่ายิ่งเรารักตัวละครตัวไหน ต้องทรมานให้ถึงที่สุด อย่าว่าแต่ทนมานคนอ่านเลย คนเขียนก็ต้องทรมานก่อนด้วยจึงจะได้ฟีล สารภาพว่าตอนเขียนนี่พยายามบิ้วท์ตัวเองด้วยภาพในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแทบ กระอักเลือดตาย แต่ตอนนี้ก็ได้แค่อย่างที่เห็นล่ะค่ะ...ตอนนี้จะใช้คำจะบรรยายอะไรก็ดูจะ ติดๆขัดๆไปหมดเลยนั่งงมไปเรื่อย เขียนรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจนะคะว่าเราเขียนอะไรลงไป.........ใช่มะ???? ;w;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น